เผยบันทึกกว่า 7,000 คำของ ‘หลิว เสวี่ยโจว’ เด็กชายผู้ถูกทอดทิ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจบชีวิตตัวเอง
Main

เผยบันทึกกว่า 7,000 คำของ ‘หลิว เสวี่ยโจว’ เด็กชายผู้ถูกทอดทิ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจบชีวิตตัวเอง

เรื่องราวสุดสะเทือนใจของ ‘หลิว เสวี่ยโจว’ วัย 17 ปี ที่ออกตามหาพ่อแม่แท้ๆ จนพบ แต่กลับถูกพ่อแม่ปฏิเสธ ตกเป็นข่าวโจษจันไปทั่วทั้งหน้าสื่อจีนและสื่อเทศ อีกทั้งจุดกระวิพากษ์วิจารณ์ยับในหน้าสื่อและโซเชียลมีเดียจีน และไม่กี่วันต่อมา ข่าว‘หลิว เสวี่ยโจว’ ฆ่าตัวตายก็กลับมาเป็นข่าวร้อนอีก โดยก่อนฆ่าตัวตายหลิวได้ทิ้งบันทึกข้อความกว่า 7,000 คำ สุดท้ายเอาไว้ในโซเชียลมีเดียยอดฮิตจีน ‘เวยปั๋ว’ เผยเรื่องราวชีวิตความจริงอันแสนขมขื่น ชวนให้ตั้งคำถามว่า “ใครกันแน่ ที่ฆ่าเด็กหนุ่มคนนี้?” สูญเสียบ้านครั้งแรก “ผมถูกพ่อขาย เพื่อเอาเงินค่าสินสอดไปขอแม่แต่งงาน” เสวี่ยโจวกล่าวในบันทึก ข้อความนี้เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นเรื่องราวชีวิตแสนเศร้าของเด็กหนุ่มผู้ถูกทอดทิ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า นำไปสู่การออกตามหาบ้าน และเรื่องราวที่หวังว่าจะจบอย่างสวยงามกลับพรากชีวิตของเขาไปตลอดกาล หลิว เสวี่ยโจว เกิดในปี 2005 ด้วยความไม่พร้อมของครอบครัว หลังจากอายุครบ 3 เดือน เสวี่ยโจว ถูกพ่อขายให้กับพ่อค้าคนกลาง เพื่อรับเงิน 6,000 หยวน (ประมาณ 30,000 กว่าบาท) และนำไปเป็นเงินค่าสินสอดไปสู่ขอแม่ของเขาแต่งงาน ขณะที่ครอบครัวบุญธรรมที่รับซื้อเสวี่ยโจวไปจ่ายเงินกว่า 27,000 หยวน (ประมาณ 140,000 กว่าบาท) สำหรับข้อตกลงการซื้อขายในครั้งนั้น…
Read More

ระทึก! สะพานข้ามหุบเขาถล่มที่ ‘เพนซิลเวเนีย’ ก่อน ‘ไบเดน’ ไปถึงแค่ไม่กี่ ชม.
Main

ระทึก! สะพานข้ามหุบเขาถล่มที่ ‘เพนซิลเวเนีย’ ก่อน ‘ไบเดน’ ไปถึงแค่ไม่กี่ ชม.

สะพานข้ามหุบเขาแห่งหนึ่งในเมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนียของสหรัฐฯ พังถล่มลงมาเมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเดินทางไปถึงเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง นับเป็นอีกเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเก่าแก่ทรุดโทรมของโครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ ที่กำลังกลายเป็นปัญหาเร่งด่วน ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ และยืนมองซากสะพานเฟิร์นฮอลโลว์ (Fern Hollow Bridge) ซึ่งสร้างมานานกว่า 50 ปี ด้วยสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด “การที่โครงสร้างพื้นฐานเรายังล้าหลังมากขนาดนี้ มันน่าตกใจนะ” ไบเดน กล่าวกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและหน่วยกู้ภัย ซึ่งให้ข้อมูลว่าเสียงของสะพานที่พังถล่มนั้นดังสนั่นราวกับเสียงของ “เครื่องยนต์เจ็ต” และยังทำให้ท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่อยู่ใต้สะพานเกิดการรั่วไหลจนต้องมีการอพยพประชาชนนานหลายชั่วโมง อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 6.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เชือกช่วยดึงตัวผู้ประสบภัยขึ้นมาจากหุบเขาที่ลึกราว 46 เมตร เหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 10 ราย โดย 4 รายถูกนำส่งโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาใต้สะพานเพื่อดูว่าจะมีเหยื่อติดค้างอยู่อีกหรือไม่ กรณีสะพานถล่มคราวนี้ยังกระตุ้นให้ภาครัฐต้องเร่งซ่อมแซมสะพาน ทางหลวง และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาที่ใช้งานมายาวนานหลายสิบปี โดยจะใช้งบประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์จากกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานที่ ไบเดน ได้ลงนามไปเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว รัฐเพนซิลเวเนียมีสะพานมากถึง 3,189 แห่งที่ถูกจัดว่าอยู่ในสภาพ “ทรุดโทรม” ตามข้อมูลของกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ…
Read More

Weekend Focus: ส่องแผนอินโดนีเซีย ‘ย้ายเมืองหลวง’ จาก ‘จาการ์ตา’ สู่ ‘นูซันตารา’
Main

Weekend Focus: ส่องแผนอินโดนีเซีย ‘ย้ายเมืองหลวง’ จาก ‘จาการ์ตา’ สู่ ‘นูซันตารา’

เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวในภูมิภาคอาเซียนที่น่าจับตามอง หลังจากรัฐสภาของอินโดนีเซียได้มีมติผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการย้ายเมืองหลวงของประเทศจากกรุงจาการ์ตาไปยังพื้นที่เกาะบอร์เนียวซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปราว 2,000 กิโลเมตร โดยจะตั้งชื่อเมืองหลวงแห่งใหม่นี้ว่า “นูซันตารา” (Nusantara) ซึ่งแปลว่า “หมู่เกาะ” ขณะที่โครงการดังกล่าวยังคงเผชิญกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่จะตามมา กฎหมาย New State Capital Law ได้วางกรอบการดำเนินงานทั้งในแง่ของงบประมาณก่อสร้าง รวมถึงการบริหารจัดการเมืองหลวงแห่งใหม่ ซึ่งถือเป็นโครงการลงทุนระดับเมกะโปรเจ็กต์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แดนอิเหนา ซูฮาร์โซ โมโนอาร์ฟา รัฐมนตรีกำกับดูแลแผนพัฒนาแห่งชาติของอินโดนีเซีย แจ้งต่อรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ (17) ว่า ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด ได้เห็นชอบให้มีการตั้งชื่อเมืองหลวงใหม่ว่า “นูซันตารา” หลังจากที่ได้มีการหารือกับนักประวัติศาสตร์และนักภาษาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ โดยพิจารณาคัดเลือกจาก 80 รายชื่อที่มีผู้เสนอมา เช่น เนอการา จายา (Negara Jaya) และนูซันตารา จายา (Nusantara Jaya) เป็นต้น สำหรับเหตุผลที่เลือกใช้ชื่อ “นูซันตารา” ก็เพราะว่าเป็นคำที่รู้จักกันมายาวนาน มีความเป็นสากล เรียบง่าย และมีความหมายสะท้อนถึงสภาพภูมิศาสตร์ของอินโดนีเซียที่ประกอบด้วยหมู่เกาะจำนวนมาก อีกทั้งเป็นคำที่ประชาชนชาวอินโดนีเซียทุกภูมิภาคให้การยอมรับ ประธานาธิบดีวิโดโด ได้ประกาศไว้เมื่อปี 2019 ว่าจะย้ายศูนย์กลางการบริหารของประเทศจากจาการ์ตาไปยังพื้นที่ชนบทในจังหวัดกาลีมันตันตะวันออก ซึ่งในทางภูมิศาสตร์ถือว่าใกล้กับศูนย์กลางของหมู่เกาะอินโดนีเซีย…
Read More

วิเคราะห์บอล ‘เเมนฯซิตี้’โดยรวมฟอร์มยังเฉียบลุ้นเบียด’เชลซี’เฮในรัง
Main

วิเคราะห์บอล ‘เเมนฯซิตี้’โดยรวมฟอร์มยังเฉียบลุ้นเบียด’เชลซี’เฮในรัง

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021 –2022 ประจำวันเสาร์วันที่ 15 มกราคม 2565 เวลา 19.30 น. เป็นบิ๊กแมตซ์ประจำสัปดาห์นี้ ที่ สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ระหว่าง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูง เปิดบ้านต้อนรับ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี รองจ่าฝูง
The post วิเคราะห์บอล ‘เเมนฯซิตี้’โดยรวมฟอร์มยังเฉียบลุ้นเบียด’เชลซี’เฮในรัง appeared first on INN News…
Read More

วูล์ฟประกาศคว้าตัว ‘คาวาเบะ’ ลุยพรีเมียร์ลีก
Main

วูล์ฟประกาศคว้าตัว ‘คาวาเบะ’ ลุยพรีเมียร์ลีก

วูล์ฟแฮมป์ตัน ติดใจแข้งเอเชียคว้าตัว คายาโอะ คาวาเบะ มิดฟิลด์ชาวญี่ปุ่น ร่วมทัพด้วยสัญญา 3 ปีครึ่ง
The post วูล์ฟประกาศคว้าตัว ‘คาวาเบะ’ ลุยพรีเมียร์ลีก appeared first on INN News…
Read More

‘จุรินทร์’เข็นส่งออกปีหน้าโต 4% โกยรายได้เข้าประเทศ 9 ล้านลบ.
Main

‘จุรินทร์’เข็นส่งออกปีหน้าโต 4% โกยรายได้เข้าประเทศ 9 ล้านลบ.

ถกกรอ.พาณิชย์ ปักธงส่งออกปี’65 บวก 3 – 4 % พุ่งเป้า 4 กลุ่มสินค้าสร้างรายได้ ลุ้นศก.คู่ค้าฟื้นตัว หวังค่าเงินมีเสถียรภาพ 32-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ…
Read More

‘กูเกิล’ งัดไม้แข็ง! ประกาศ ‘งดจ่ายเงินเดือน-ไล่ออก’ พนักงานที่ไม่ฉีดวัคซีน
Main

‘กูเกิล’ งัดไม้แข็ง! ประกาศ ‘งดจ่ายเงินเดือน-ไล่ออก’ พนักงานที่ไม่ฉีดวัคซีน

บริษัท กูเกิล (Google) ออกหนังสือเตือนพนักงานว่าอาจถูกงดจ่ายเงินเดือน หรือถึงขั้นไล่ออก หากปฏิเสธการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สื่อ CNBC อ้างถึงเอกสารภายในที่ออกโดยกูเกิล ซึ่งระบุให้พนักงานทุกคนแจ้งสถานะการฉีดวัคซีนและอัปโหลดเอกสารยืนยัน หรือส่งหลักฐานเพื่อขอรับการยกเว้นด้วยเหตุผลทางการแพทย์หรือศาสนา ภายในวันที่ 3 ธ.ค. หากพ้นจากวันดังกล่าวไปแล้วบริษัทจะเริ่มติดต่อไปยังพนักงานที่ไม่ได้ส่งเอกสารยืนยัน ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือการขอยกเว้นไม่ได้รับอนุมัติ พนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามนโยบายฉีดวัคซีนภายในวันที่ 18 ม.ค. ปี 2022 จะถูก “พักงานโดยได้รับเงินเดือน” เป็นเวลา 30 วัน และหากยังไม่ทำตามกฎก็จะถูก “พักงานโดยงดจ่ายเงินเดือน” อีก 6 เดือน ตามมาด้วยการ “เลิกจ้าง” สำนักข่าวรอยเตอร์ได้ติดต่อไปยังกูเกิลเพื่อสอบถามเพิ่มเติม ซึ่งได้รับคำตอบเพียงว่า ทางบริษัท “มุ่งมั่นที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อสนับสนุนให้พนักงานฉีดวัคซีนหากสามารถทำได้ และยังคงยึดมั่นนโยบายส่งเสริมการฉีดวัคซีน” เมื่อต้นเดือนนี้ กูเกิลได้ประกาศเลื่อนแผนให้พนักงานกลับเข้าทำงานในออฟฟิศออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมที่จะให้พนักงานเข้าออฟฟิศ 3 วันต่อสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเชื้อโอมิครอน รวมถึงยังมีพนักงานบางส่วนที่ต่อต้านนโยบายบังคับฉีดวัคซีน ที่มา : รอยเตอร์
Read More

2 เข็มไม่อยู่! ‘อังกฤษ’ เผยฉีดไฟเซอร์เข็มกระตุ้นช่วยป้องกันป่วย ‘โอมิครอน’ ได้ 70-75%
Main

2 เข็มไม่อยู่! ‘อังกฤษ’ เผยฉีดไฟเซอร์เข็มกระตุ้นช่วยป้องกันป่วย ‘โอมิครอน’ ได้ 70-75%

นักวิทยาศาสตร์อังกฤษชี้การฉีดวัคซีน 2 เข็มไม่เพียงพอที่จะป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยจากผลวิเคราะห์ในเบื้องต้นพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพยับยั้งเชื้อสายพันธุ์ใหม่ลดลงเมื่อเทียบกับ “เดลตา” แต่การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 จะช่วยป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนแบบแสดงอาการได้ถึง 70-75% สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) เผยผลการศึกษาจากการใช้วัคซีนจริง (real world study) ซึ่งบ่งชี้ว่า โควิดสายพันธุ์โอมิครอนมีผลทำให้ภูมิคุ้มกันที่ได้จากการฉีดวัคซีน 2 เข็มลดลงอย่างมาก แต่การฉีดเข็มบูสเตอร์จะช่วยให้ร่างกายมีระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโอมิครอนใกล้เคียงกับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อสายพันธุ์อื่นๆ “แม้ผลการประเมินในเบื้องต้นนี้จะยังไม่เป็นที่ยืนยัน แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนว่า หลังจากที่ฉีดวัคซีนเข็ม 2 ไปแล้วประมาณ 2-3 เดือน ความเสี่ยงในการติดเชื้อโอมิครอนจะมากขึ้น เมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลตา” ดร.แมรี แรมซีย์ หัวหน้าแผนกการสร้างภูมิคุ้มกันของ UKHSA ระบุ “จากข้อมูลที่เรามีบ่งชี้ว่า ความเสี่ยงจะลดลงมากหากฉีดเข็มบูสเตอร์ ดังนั้น ดิฉันจึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หากสามารถทำได้” จากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ติดเชื้อโอมิครอนจำนวน 581 คน พบว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและไฟเซอร์จำนวน 2 เข็มป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนแบบแสดงอาการได้น้อยกว่าที่ป้องกันเชื้อเดลตา แต่หากฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีนไฟเซอร์ จะสามารถลดความเสี่ยงลงได้ถึง 70% สำหรับผู้ที่เคยฉีดแอสตร้าเซนเนก้ามาก่อน และ 75% สำหรับคนที่เคยฉีดไฟเซอร์…
Read More

หวั่นวิกฤต “หวัดนก” ลามโลก ทุบซ้ำส่งออกไก่ปี’64 วืดเป้า
Main

หวั่นวิกฤต “หวัดนก” ลามโลก ทุบซ้ำส่งออกไก่ปี’64 วืดเป้า

เฝ้าระวังไข้หวัดนกลามโลก ถล่มส่งออก ส.ไก่มั่นใจไทยมีมาต […]
อ่านข่าวต้นฉบับ: หวั่นวิกฤต “หวัดนก” ลามโลก ทุบซ้ำส่งออกไก่ปี’64 วืดเป้า…
Read More

ทั่วโลกแห่แบนผู้เดินทาง 8 ชาติแอฟริกาสกัดเชื้อ ‘โอไมครอน’ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจ ‘สายเกินไปแล้ว’
Main

ทั่วโลกแห่แบนผู้เดินทาง 8 ชาติแอฟริกาสกัดเชื้อ ‘โอไมครอน’ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจ ‘สายเกินไปแล้ว’

การค้นพบโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์ใหม่ซึ่งได้รับชื่อสดๆ ร้อนๆ จากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่า “โอไมครอน” กระพือความหวั่นวิตกในระดับนานาชาติ และทำให้หลายประเทศสั่งปิดพรมแดนเพื่อกันผู้เดินทางจากแอฟริกาตอนใต้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าความพยายามดังกล่าวอาจ “ช้าเกินไป” WHO แถลงว่า เชื้อโอไมครอนมีแนวโน้มแพร่กระจายได้ไวกว่าโควิด-19 สายพันธุ์ก่อนหน้า และผู้ที่เคยป่วยแล้วมีความเสี่ยงที่จะกลับมาติดเชื้อซ้ำมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยายอมรับว่า มาตรการจำกัดการเดินทางที่หลายประเทศนำมาใช้อาจ “สายเกินไป” ที่จะป้องกันไม่ให้เชื้อโอไมครอนแพร่กระจายไปทั่วโลก และจนถึงขณะนี้มีรายงานพบผู้ติดเชื้อแล้วทั้งแอฟริกาใต้, เบลเยียม, บอตสวานา, อิสราเอล และฮ่องกง นับตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ (29 พ.ย.) สหรัฐอเมริกาจะเริ่มใช้มาตรการแบนผู้เดินทางส่วนใหญ่จาก 8 ประเทศแอฟริกาตอนใต้ ได้แก่ แอฟริกาใต้, บอตสวานา, ซิมบับเว, นามิเบีย, เลโซโท, เอสวาตินี, โมซัมบิก และมาลาวี โดยชาวต่างชาติที่เคยเดินทางไปประเทศเหล่านี้ในช่วง 14 วันจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสหรัฐฯ ด้านแคนาดาก็ประกาศปิดพรมแดนไม่รับผู้เดินทางจากกลุ่มประเทศแอฟริกาตอนใต้เช่นกัน ตามหลังคำสั่งแบนเที่ยวบินที่ประกาศโดยอังกฤษ, และสหภาพยุโรป (อียู) ประเทศอื่นๆ ที่เริ่มใช้มาตรการจำกัดการเดินทางแล้วเช่นกัน ได้แก่ สิงคโปร์, อินเดีย, ญี่ปุ่น, อิสราเอล, ตุรกี,…
Read More