กาง 4 เหตุผล ภาคประชาชน ค้าน “แลนด์บริดจ์” ชุมพร-ระนอง
โครงการแลนด์บริดจ์ ที่ขณะนี้ การเป็นโครงการเรือธงของ “รัฐบาลเศรษฐา” หากหนึ่ง กมธ.แลนด์บริดจ์ ก็เดินหน้ารับฟังความคิดเห็นประชาชน คู่ขนาน กับการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่เดินสายชักชวนนักลงทุนให้มาลงทุนในโครงการนี้ในเวทีต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับการจัด ครม.สัญจร ที่ จ.ชุมพร และ จ.ระนอง
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอจากภาคประชาชนในพื้นที่ ภายหลังการเข้าให้ความเห็นกับ กมธ.แลนด์บริดจ์ สภาฯถึง 2 ครั้ง จนล่าสุด สามารถสรุปเหตุผลของการคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ ใน 4 ด้านดังนี้
1.โครงการไม่คุ้มค่า ไม่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ซึ่งจะทำให้สูญเสียเงินภาษี และเป็นหนี้ต่างชาติ โครงการนี้ใช้งบประมาณสูงถึง 1 ล้านล้านบาท โดยร่วมทุนระหว่างภาครัฐกับเอกชน
ทั้งนี้นักเดินเรือและนักวิชาการหลายคน เห็นว่า การขนส่งโดยใช้เส้นทางแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงกว่าและใช้เวลานานกว่าการเดินเรือผ่านช่องแคบมะละกา เนื่องจากต้องใช้เวลาในการยกตู้คอนเทนเนอร์จากเรือขึ้นรถไฟ และจากรถไฟลงเรือ
อีกทั้งแนวโน้มการขนส่งทางเรือจะลดลง เปลี่ยนไปขนส่งทางรถไฟแทน โดยจีนจะสร้างเส้นทาง One Belt One Road ทั้งถนน รถไฟ ไปสหภาพยุโรป เอเชียกลาง อินเดีย ปากีสถาน ลดการขนส่งผ่านช่องแคบต่าง ๆ จึงไม่มีแรงจูงใจให้มาใช้เส้นทางแลนด์บริดจ์
อ่านข่าว : “โครงการแลนด์บริดจ์” โปรเจคใหญ่ “รัฐบาลเศรษฐา” ที่ต้องฟังเสียง “คนเล็กคนน้อย” ในพื้นที่
2.พื้นที่ไม่เหมาะสม ส่งผลกระทบต่อประชาชน และสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล รูปแบบโครงการแลนด์บริดจ์ หรือ สะพานเศรษฐกิจ ประกอบด้วย
2.1ส่วนหัว ได้แก่ ท่าเรือน้ำลึกฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ทุ่นเทียบ ส่งน้ำมันดิบในทะเลทั้ง 2 ฝั่ง พื้นที่อุตสาหกรรมหลังท่า ถังสำรองน้ำมันดิบ
2.2 ส่วนตัว หรือระบบคมนาคมเชื่อมโยงท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง ได้แก่ มอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ ระบบท่อส่งน้ำมัน พื้นที่อุตสาหกรรม ทางคู่ขนานสำหรับการใช้ประโยชน์ของประชาชน
อ่านข่าว : เปรียบเทียบความคุ้มค่า “แลนด์บริดจ์-คลองไทย”
รวมถึงจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แยกเป็น 4 โครงการย่อย 3 หน่วยงาน เอกสารประกอบการประชุม ครั้งที่ 1 ระบุถึงพื้นที่ศึกษาของโครงการ ดังนี้
1) ท่าเรือน้ำลึกชุมพร บริเวณแหลมริ่ว อยู่ในพื้นที่ ต.บางน้ำจืด ต.ปากน้ำ อ.หลังสวน และ ต.ปากตะโก อ.ทุ่งตะโก มีชุมชนรอบพื้นที่ตั้งโครงการ 5 กม…
Read More