“รสนา” ถาม “บิ๊กตู่” ยุบสภาโดยไร้สาเหตุ แต่เอื้อบางพรรค คอร์รัปชันเชิงอำนาจหรือไม่
“รสนา” ตั้งคำถาม นายกฯ ยุบสภาโดยไม่มีเหตุขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารกับนิติบัญญัติ แต่เป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์ให้บางพรรคหาคนมาสมัครสมาชิกให้ทันเวลา เข้าข่ายคอร์รัปชั่นเชิงอำนาจหรือไม่ เมื่อวันที่ 13 มี.ค. น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) กรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นกรณีการยุบสภา ว่า การยุบสภาโดยปราศจากเงื่อนไขข้อขัดแย้งระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร เป็นการคอร์รัปชันเชิงอำนาจหรือไม่!? บนพื้นฐานการบริหารแบบประชาธิปไตย ใช้หลักการแบ่งแยกอำนาจเป็น 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายสภานิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ การบริหารงานระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหารคือการถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน โดยที่สภาผู้แทนราษฎรสามารถตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลด้วยการควบคุมการใช้งบประมาณ โหวตคว่ำกฎหมายสำคัญของรัฐบาล การตั้งกระทู้ถามไปจนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนรัฐบาลก็มีเครื่องมือตอบโต้ฝ่ายสภาผู้แทนราษฎรคือการยุบสภา เมื่อไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างกัน วัตถุประสงค์หลักที่สําคัญของการยุบสภามี 2 ประการคือ ประการแรก เป็นการถ่วงดุลหรือควบคุมฝ่ายนิติบัญญัติโดยฝ่ายบริหาร ประการที่สอง เป็นการนำเสนอข้อขัดแย้งต่อประชาชน เพื่อให้ประชาชนตัดสินว่าจะแก้ปัญหาตามแนวทางใดโดยแสดงออกผ่านการใช้สิทธิเลือกต้ัง แม้ภายหลังจะมีการเพิ่มสาเหตุที่มีการยุบสภาไว้ประมาณ 9 กรณี ได้แก่ 1)ความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างฝ่ายบริหารคือรัฐบาลกับฝ่ายนิติบัญญัติคือรัฐสภา 2) ความขัดแย้งระหว่างวุฒิสภากับสภาผู้แทนราษฎรในการพิจารณากฎหมายสําคัญ 3) การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญใหม่ และยังไม่แน่ใจว่าประชาชนจะเห็นด้วยกับฝ่ายที่ขอแก้ไขหรือไม่ 4) ต้องการเร่งการเลือกต้ังให้เร็วขึ้น 5) ต้องการให้มีการเลือกตั้งในขณะที่ฝ่ายบริหารหรือพรรคที่เป็นรัฐบาลกําลังได้รับ
Read More