นักบินโพสต์เตือนอันตราย หลังพบ “บั้งไฟ” ทะยานสูงกว่าเครื่องบิน
หลังเพจ “บันทึกไม่ลับของคนขับเครื่องบิน” โพสต์ภาพ “บั้งไฟ” เล่าเหตุการณ์ โดยมีใจความว่า ขณะบินขึ้นจากสนามบินอุบลราชธานี โดยอยู่ทางทิศตะวันตกของสนามบิน เจอบั้งไฟห่างจากเครื่องบินไม่ถึง 200 เมตร ขนาดอยู่ที่ความสูง 6000 ฟุต (1.8 กิโลเมตร ) บั้งไฟยังขึ้นไปสูงกว่าเครื่องบิน ซึ่งมองด้วยสายตาน่าจะสูง 8000 ฟุต (2.4 กิโลเมตร) พร้อมระบุว่า “อันตรายมาก”
จึงได้แจ้งหอบังคับการบินว่า บริเวณนี้มีการปล่อยบั้งไฟ ซึ่งหอฯระบุว่า ไม่มีการรายงานการขออนุญาต จากนั้นก็พบว่ามีเครื่องบินลำอื่น ๆ รายงานการเข้ามา จนหอฯ ต้องให้คำแนะนำเส้นทางบินหลบกันอุตลุด
ทีมข่าวตรวจสอบเพิ่มเติมจากไฟล์ท เรด้า ทเวนตี้โฟร์ (Flightradar24) พบว่าเส้นทางบินจากอุบลราชธานีเข้ากรุงเทพ หลังเครื่องบิน บินขึ้นแล้ว จะผ่านตัว อ.เมืองอุบลราชธานี ก่อนข้ามลำน้ำชีและเข้าสู่เขต อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ถึง 5 นาที แต่เป็นช่วงที่เครื่องบินมีความสูงยังไม่มาก คือประมาณ 5,000 – 10,000 ฟุต หรือ 3 กิโลเมตรเหนือพื้นดิน จากความสูงที่ทำการบินปกติ ประมาณ 10 กิโลเมตร
นอกจากนี้ เพจดังกล่าวยังได้โพสต์เพิ่มเติมว่า ที่ออกมาเขียนเตือน เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เข้าใจดีว่าเป็นประเพณี ตนเองก็ลูกหลานคนอีสาน อยากให้คนที่ร่วมประเพณีได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของส่วนรวมและการเดินอากาศ ต้องช่วยกันทำตามกฎเพื่อความปลอดภัย
พร้อมระบุ พ่อแม่พี่น้องลูกเมียของคนที่ทำแบบนี้ บังเอิญจะกลับบ้านมางานบุญบั้งไฟโดยเที่ยวบินไหนสักเที่ยว แล้วมาโดนบั้งไฟที่คุณเอง ทำชนเครื่องบินจนเกิดความสูญเสีย จะคิดอย่างไร ฝากไว้ให้คิด
วิธีขออนุญาตจุด “บั้งไฟ”
สนามบินของแก่น มีข้อแนะนำ เรื่อง ในช่วงเทศกาลบุญบั้งไฟ ต้องทำอย่างไร ที่จะรักษาประเพณี การปล่อยบั้งไฟและใช้ท้องฟ้าร่วมกันได้อย่างปลอดภัย และขออนุญาตปล่อยบั้งไฟอย่างไรให้ถูกต้อง
พร้อมคำแนะนำในการขออนุญาตจุดบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอยโคมควัน ซึ่งต้องได้รับการอนุญาตจากผู้อำนวยการเขต หรือนายอำเภอในท้องที่ไม่น้อยกว่า 15 วัน โดยแจ้งข้อมูล วัน เวลา สถานที่ จำนวน และขนาด ทั้งนี้หากไม่ขออนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าว : เปิดสถิติ “ไทย” ก่อนเจอ “เซอร์เบีย” ศึก VNL 2024 คืนนี้
กต.แถลง “ตัวประกันไทย” ในกาซา เสียชีวิต 2 คน
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ขรก.ในพระองค์ฝ่ายทหาร “ร้อยโทหญิง…
Read More