ไบเดนเครียดเจอภัยพิบัติครั้งประวัติศาสตร์ หวั่นเหยื่อทอร์นาโดเคนตั๊กกี้อาจมีนับร้อย
รอยเตอร์ – คาดว่าอาจจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คนในเคนตั๊กกี้ หลังทอร์นาโดหลายลูกถล่มพื้นที่ตั้งแต่แถบมิดเวสต์จนถึงตอนใต้ของอเมริกาเป็นระยะทางถึง 321 กิโลเมตร ส่งผลให้บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างมากมายพังพินาศ ยากต่อการค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง ทางด้านผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ภัยพิบัติครั้งนี้มีแนวโน้มเป็นพายุทอร์นาโดใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกา และจะขอให้สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมตรวจสอบว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลอย่างไรต่อการเกิดพายุ แอนดี้ บีเชียร์ ผู้ว่าการรัฐเคนตั๊กกี้ แถลงเมื่อวันเสาร์ (11 ธ.ค.) ว่ากลุ่มพายุทอร์นาโดนี้สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ เจ้าหน้าที่สามารถช่วยคนงานราว 40 คนออกมาจากโรงงานผลิตเทียนในเมืองเมย์ฟิลด์ ซึ่งมีคนอยู่ประมาณ 110 คนตอนที่ถูกพายุถล่มเหลือเพียงซากปรักหักพัง กระทั่งคงมีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะทำให้พบผู้รอดชีวิตใต้ซากโรงงาน บีเชียร์เสริมว่า ทหาร 189 นายจากกองกำลังป้องกันชาติถูกส่งมาช่วยฟื้นฟู และความพยายามในการกู้ภัยจะเน้นที่พื้นที่ขนาดใหญ่ในเมย์ฟิลด์ที่มีประชากร 10,000 คน และตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐเคนตั๊กกี้ติดกับรัฐอิลลินอยส์ มิสซูรี และอาร์คันซอส์ วิดีโอและภาพถ่ายที่โพสต์บนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นอาคารหลายแห่งในตัวเมืองเมย์ฟิลด์พังราบ ที่จอดรถในบริเวณใกล้เคียงถูกฝังใต้ซากปรักหักพัง พายุหมุนทรงพลังที่หน่วยงานพยากรณ์อากาศระบุว่า ปกติแล้วจะไม่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อากาศหนาวเย็นแบบนี้ ก่อตัวขึ้นหลังเกิดพายุฝนฟ้าคะนองหลายระลอกในชั่วข้ามคืน ซึ่งรวมถึงพายุฟ้าคะนองขนาดใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐอาร์คันซอส์ และเคลื่อนตัวไปยังมิสซูรีเข้าสู่เทนเนสซีจนไปถึงเคนตั๊กกี้ วิกเตอร์ เจนซินี ศาสตราจารย์ด้านภูมิศาสตร์และบรรยากาศของมหาวิทยาลัยนอร์ธเทิร์นอิลลินอยส์ ระบุว่า อุณหภูมิและความชื้นที่สูงผิดปกติทำให้เกิดสภาพแวดล้อมสำหรับสภาพอากาศสุดโต่งในช่วงเวลานี้ของปี ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน แถลงเมื่อวันเสาร์ระหว่างการอนุมัติการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเคนตั๊กกี้ว่า…
Read More