Main

“สงครามรัสเซีย-ยูเครน” บีบยุโรปสะสมอาวุธมากขึ้น

ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก มีแนวโน้มขยายตัวทำให้หลายประเทศในยุโรปหันมาเสริมสร้างเขี้ยวเล็บทางการทหาร ซึ่งการจัดซื้ออาวุธเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของกองทัพ เพิ่มขึ้นหลังจาก “สงครามรัสเซีย-ยูเครน” เปิดฉากเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2022
การเปิดปฏิบัติการทางทหารรุกรานยูเครนตลอด 1 ปีที่ผ่านมา มีนัยสำคัญต่อความสัมพันธ์ของผู้ซื้อกับผู้ขายอาวุธระดับโลกอย่างมาก โดยรายงานจากสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม ชี้ว่า การนำเข้าอาวุธของยุโรปปี 2018-2022 เพิ่มขึ้น 47% จากปี 2013-2017
คำนิยามเกี่ยวกับอาวุธครอบคลุมตั้งแต่เครื่องบินรบ เรือรบ รถถัง ปืนใหญ่ ขีปนาวุธ ไปจนถึงระบบป้องกันภัยอีกหลากหลายประเภท แม้ว่าการนำเข้าอาวุธทั่วโลกจะลดลง 5.1% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่สมาชิกองค์การนาโตในยุโรปกลับนำเข้าอาวุธเพิ่มขึ้นถึง 65%

รายงานสรุปสถานการณ์การนำเข้าอาวุธของยุโรปปี 2018-2022 ระบุว่า ยูเครนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเข้าอาวุธ 15 อันดับแรกของโลก หลังจาก 29 ประเทศทั่วโลกจัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ยูเครน เพื่อใช้รับมือกับการรุกรานของรัสเซียตลอด 1 ปีที่ผ่านมาของสงคราม
การให้ความช่วยเหลือทางการทหารของสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตก ทำให้ยูเครนขึ้นแท่นผู้นำเข้าอาวุธเบอร์ 3 ของโลกเมื่อปี 2022 อัตราการจัดซื้ออาวุธของยุโรปมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว ท่ามกลางความขัดแย้งของชาติมหาอำนาจในสงครามยูเครน
การเปิดปฏิบัติการพิเศษทางการทหารของรัสเซีย เป็นเพียงตัวเร่งให้การเสริมสร้างขีดความสามารถทางทหารรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจาก​แนวโน้มการจัดซื้ออาวุธเพื่อเตรียมรับมือความขัดแย้ง เริ่มขึ้นนับตั้งแต่รัสเซียเดินหน้าผนวกคาบสมุทรไครเมียเมื่อปี 2014
เปียเตอร์ เวเชมัน นักวิจัยอาวุโส SIPRI กล่าวว่า การตัดสินใจเพิ่มขีดความสามารถทางการทหารของชาติยุโรป เกิดขึ้นหลังจากรัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปี 2014 หลังจากการผนวกไครเมีย ซึ่งจะเห็นว่าชาติในยุโรปได้ตัดสินใจยกระดับการจัดซื้ออาวุธสำคัญๆ แต่ในปี 2022 ก็ได้เห็นกระบวนการดังกล่าวรวดเร็วมากขึ้น เมื่อประเทศในยุโรปต้องการมีอาวุธมากขึ้น และพวกเขาต้องการได้รับอาวุธเร็วขึ้นด้วย

ขณะที่สหรัฐฯ ยังคงรั้งตำแหน่งผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก เนื่องจากมีสัดส่วนการส่งออกอาวุธคิดเป็น 40% ของทั้งโลก อันดับที่ 2 คือรัสเซีย (16%) ตามด้วยฝรั่งเศส จีนและเยอรมนี ขณะเดียวกันสัดส่วนการส่งออกอาวุธของรัสเซียลดลงจาก 22% เหลือ 16% เนื่องจากรัสเซียจำกัดการส่งออกอาวุธเพื่อใช้ในการทำสงคราม ในขณะที่คำสั่งซื้ออาวุธจากต่างชาติลดลงจากมาตรการคว่ำบาตร
แนวโน้มการแข่งขันด้านอาวุธมีสัญญาณชัดเจนตั้งแต่ปี 2022 หลังจากค่าใช้จ่ายด้านการทหารทะลุ 2 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ซึ่ง “จีน” ทุ่มค่าใช้จ่ายเป็นอันดับที่ 2 ของโลก 2.93 แสนล้านดอลลาร์ แต่ได้ยกระดับการผลิตอาวุธภายในประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ การเพิ่มกำลังการผลิตอาวุธภายในประเทศมีส่วนทำให้จีนส่งออกลดลงจาก 6.3% ในปี 2013-2017 เหลือ 5.2% ในปี 2018-2022
ผลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนทำให้โลกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมากขึ้น จนนำไปสู่การสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อยกระดับกองทัพให้ทันสมัย
วิเคราะห์โดย พงศธัช สุขพงษ์
 …
Read More

ฮือฮา! พบภาพแกะสลักหินโบราณรูปสตรีใบหน้าสมบูรณ์กลางป่าบุรีรัมย์ เชื่อเป็นรูป “พระนางสิริมหามายา”

ชาวบ้านเข้าป่าไปเก็บเห็ดบนเขากระเจียว จ.บุรีรัมย์ พบภาพ…

นายกฯส่งมินิฮาร์ทชาวไท-ยวน สั่งขยายพันธุ์มะพร้าวน้ำหอม-ดันหินเขางูแลนด์มาร์ค ชี้บริษัทเก่าบริสุทธิ์ใจให้ทุนเด็ก

“เศรษฐา” ส่งมินิฮาร์ทหลังชาวไท-ยวน ชูป้ายต้อนรับ สั่งขย…

ชาวเน็ตชื่นชมร้านขายหมูสด 20 บาทก็ตักให้ เข้าใจหัวอกช่วงเปิดเทอม

55 บาทของคนเราไม่เท่ากัน ร้านหมูแห่งหนึ่งโพสต์เล่าเรื่อ…