dzvin.news casino

กรณีนพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุตอนหนึ่งเกี่ยวกับนโยบายแยกกักตัวอย่างน้อย 5 วันจะทำให้เสี่ยงต่อการแพร่ระ บาดวงกว้าง ย้ำว่า ความรู้ทางการแพทย์ปัจจุบันพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่าการแยกตัว 5 วันนั้นไม่เพียงพอ
มีงานวิจัยทั้งจากทีม Massachusetts General Hospital มหาวิทยาลัย Harvard ประเทศสหรัฐอเมริกา และจากทีม Imperial College London สหราชอาณาจักร ที่ยืนยันให้เห็นชัดเจน ทั้ง 2 งานวิจัยนั้นให้ผลออกมาสอดคล้องกันว่า
5 วัน มีความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อจะยังคงมีเชื้ออยู่ และสามารถแพร่ให้คนรอบข้างได้นั้นสูงถึง 50-75% 7 วัน ความเสี่ยงยังคงสูงถึง 25-35% ส่วน 10 วัน จะมีความเสี่ยงราว 10% หลัง 14 วันจะปลอดภัย
นพ.ธีระ ระบุว่า การปฏิบัติตัวในชีวิตจริงนั้น ทางที่พอจะยืดหยุ่นและมีความเป็นไปได้คือ หากตรวจพบว่าติดเชื้อหรือมีอาการ “ควรแยกตัวอย่างน้อย 7-10 วัน เมื่อครบ 7-10 วันแล้วก่อนออกมาใช้ชีวิต ทำ งาน หรือศึกษาเล่าเรียนจำเป็นต้องแน่ใจว่าผ่าน 2 ข้อต่อไปนี้คือ 1.ไม่มีอาการแล้ว 2.ตรวจ ATK แล้วได้ผลเป็นลบ

 
แม้ออกมาจากการแยกตัวแล้วก็จำเป็นต้องป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดต่อเนื่องไป จนครบ 2 สัปดาห์ โดยควรใช้หน้ากาก N95 หรือเทียบเท่า ถ้าต้องทำงานที่ใกล้ชิดผู้คนมาก การออกนโยบาย 5+5 (แยกตัว 5 วัน และป้องกันตัว 5 วัน) ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ
แม้จะเข้าใจได้ว่าเอื้อต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสังคมวงกว้างนั้นมีสูง ทั้งเรื่องการติดเชื้อ เจ็บป่วย เสียชีวิตโดยรวม และปัญหาระยะยาวอย่าง Long COVID ซึ่งบั่นทอนคุณภาพชีวิต สมรรถนะการใช้ชีวิต การทำงาน และภาระค่าใช้จ่าย ทั้งต่อผู้ป่วยครอบครัว และสังคม
สธ.ยันสูตร 5+5 ยึดตามหลักวิชาการ 
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแนวทางการรักษาโรคโควิด-19 กลุ่มไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยแบบ 5+5 ว่า การกำหนดให้แยกกักรักษา 5 วัน และเฝ้าระวังสังเกตอาการ และเคร่งครัดมาตรการป้องกันตนเอง คือ สวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่างอีก 5 วัน เป็นแนวทางการที่เป็นไปตามสถานการณ์ ถูกต้องตามหลักวิชาการ และผ่านคำปรึกษาของผู้ทรงคุณวุฒิทั้งใน และนอกกระทรวงสาธารณสุข มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และสมดุลของการควบคุมโรคกับการใช้ชีวิตของประชาชน
มีข้อมูลการศึกษาในหลายประเทศ พบว่าผู้ป่วยโรคโควิด-19 สามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ก่อนเริ่มป่วย 1-2 วัน และวันเริ่มป่วยจะเป็นระยะที่มีโอกาสแพร่โรคให้ผู้อื่นได้มากที่สุด ซึ่งจำเป็นต้องแยกกักที่บ้าน เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อในชุมชน
 

ไทยป่วยโควิด-19 รายวัน 1,488 คน เสียชีวิต 26 คน 
นพ.รุ่งเรือง กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การพิจารณาปรับระยะเวลาแยกกักที่บ้านลงนั้น เป็นการตัดสินใจบนข้อมูลข้อเท็จจริงทางวิชาการ ที่พบว่าการแยกกักที่บ้าน 5 วัน หรือ 7 วัน หรือนานกว่านั้น สามารถลดโอกาสเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อชุมชนไม่แตกต่างกัน
ที่สำคัญคือ คนจำนวนมากฉีดวัคซีนแล้วทำให้มีภูมิคุ้มกันช่วยป้องกันอาการรุนแรงรวมถึงเมื่อทราบว่าตนเองติดเชื้อก็มีความรู้ความเข้าใจ และป้องกันตนเองอย่างเต็มที่
การสังเกตอาการและเข้มมาตรการป้องกันตนเองเพิ่ม 3 วัน หรือ 5 วัน จึงไม่ได้แตกต่างกันมาก เพราะผู้ติดเชื้อจะมีการเฝ้าระวังตนเองไม่ให้แพร่เชื้อต่อ
ส่วนกลุ่มที่เราเป็นห่วง คือกลุ่มเสี่ยงต่อการป่วยหนัก หรือมีอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ กลุ่ม 608 ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนโควิดหรือยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น จึงต้องเน้นให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น หากได้รับวัคซีนเข็มล่าสุดมาแล้วในช่วง 3-4 เดือน เพื่อคงระดับภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19
นอกจากนี้ หากประชาชนยังคงร่วมมือกันสวมหน้ากาก ขณะทำกิจกรรมร่วมกัน ในกลุ่มคนจำนวนมาก หรือสวมหน้ากาก ขณะอยู่ในที่สาธารณะ รวมทั้งผู้ที่มีอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ น้ำมูกไหล เจ็บคอ ปวดตามตัว มีการสวมหน้ากาก ขณะอยู่ใกล้ชิดผู้อื่น จะช่วยลดการแพร่โรคได้
ขณะที่วันนี้ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 1,488 คน ผู้ป่วยสะสม 2,413,764 คน (ตั้งแต่ 1 ม.ค.2565) หายป่วยกลับบ้าน 2,394 คน หายป่วยสะสม 2,418,727 คน (ตั้งแต่ 1 ม.ค.2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 17,897 คน เสียชีวิต 26 คน เสียชีวิตสะสม 10,383 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค.2565) จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 839 คน
 …
Read More

เพจเฟซบุ๊ก “สูงเนินบ้านฉัน” เผยแพร่คลิปเหตุการณ์เมื่อเวลา 21.30 น. คืนวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ 2 คัน ตกลงไปในหลุมที่ผู้รับเหมาก่อสร้างขุดเพื่อวางท่อระบายน้ำ บริเวณทางคู่ขนานถนนมิตรภาพขาเข้าตัวเมืองนครราชสีมา ต.มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา พร้อมระบุว่า จุดเกิดอุบัติเหตุเป็นพื้นที่ก่อสร้าง แต่กลับไม่มีป้ายแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำแท่งบริเออร์มาปิดเส้นทาง ป้องกันเหตุซ้ำรอย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า บริเวณดังกล่าวเป็นโครงการขุดถนนเพื่อวางท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ผู้รับเหมาขุดหลุมลึก 2.70 เมตร กว้าง 2 เมตร ยาว 6 เมตร แต่มีการวางแท่งบริเออร์ห่างจากหลุมเพียง 5 ถึง 6 เมตร และมีสัญญาณไฟที่ไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ขับขี่รถมาด้วยความเร็วมองไม่เห็นทำให้รถตกหลุม และยังพบว่าในพื้นที่ใกล้กันยังมีการขุดหลุมวางท่อระบายน้ำขนาดใหญ่อีก 3 จุด ซึ่งหลังเกิดเหตุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการประชุมเพื่อวางมาตรการป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น
นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ นายอำเภอสูงเนิน ยังระบุว่า ในอำเภอสูงเนินมีพื้นที่ก่อสร้างวางท่อระบายน้ำจำนวน 4 จุด เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมจุดที่เกิดเหตุอยูู่ใน ต.มะเกลือเก่า ซึ่งจากการสอบถามผู้ประสบเหตุบอกว่าไฟส่องสว่างไม่เพียงพอทำให้มองเห็นแท่งแบริเออในระยะกระชั้นชิดก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ โดยหลังจากนี้ได้ประสานให้ผู้รับเหมานำแผงแบริเออไปกั้นปิดห่างจากหลุม 500 เมตร และเลยออกไปจากหลุมอีก 300 เมตร และจะมีการนำกองทรายมากองไว้หลังแท่งแบริเอออีกชั้น
นอกจากนั้นจะเพิ่มไฟสัญญาณเตือนจุดก่อสร้าง เนื่องจากในช่วงกลางคืนจะไม่มีคนงาานจึงประสานไปยังตำรวจในพื้นที่เพื่อให้ตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณจุดก่อสร้างเพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย ส่วนการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บจะให้การช่วยเหลือเยียวยาเต็มที่
 …
Read More

วันนี้ (23 ส.ค.2565) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า จากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติไม่ส่งเรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามคำร้องที่ได้ยื่นไว้เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา อ้างว่า ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ยื่นคำร้องผ่านประธานสภารัฐสภา เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 แล้ว กกต.จึงไม่จำเป็นต้องพิจารณานั้น
เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุว่า การที่ประธานสภาฯ รับเรื่อง 8 ปี วาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ใช้เวลา 5 วัน ส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่ กกต.รับเรื่อง 15 วัน แต่กลับไม่ยอมส่ง และรอจน ส.ส.ฝ่ายค้านเข้าชื่อส่ง พร้อมตั้งคำถามการทำหน้าที่ของ กกต.ที่ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 170 วรรคท้ายได้
ทั้งนี้ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อไต่สวนสอบสวนเอาผิด กกต…
Read More

วันนี้ (23 ส.ค.65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขระบุถึงกรณี การยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า นายกรัฐมนตรียังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ครม.ก็ต้องทำงาน ตามภารกิจของตัวเอง
ส่วนการชุมนุมเคลื่อนไหวก็ต้องคำนึงถึงเหตุและผล เพราะ ครม.พร้อมรับฟังทุกฝ่าย ทั้งนี้ ยอมรับว่า ครม.ก็ต้องหวั่นไหวกับเรื่องที่ประชาชนไม่พอใจ และต้องรับฟังเพื่อจะดูเหตุดูผลรวมไปถึงข้อกฎหมาย
แต่ขณะนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้มีคำวินิจฉัยออกมา ซึ่งก็ต้องรอฟังคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญจะมาพูดก่อนไม่ได้ เพราะจะเป็นการละเมิดอำนาจศาลและไม่ใช่หน้าที่ของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องจะออกมาพูดเรื่องนี้
นายอนุทินยังกล่าวว่า แต่ละคนก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบโดยส่วนตัวก็ต้องทำหน้าที่ในเรื่องของการประชุมเอเปคด้านสุขภาพ และต้องต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหลายประเทศที่เดินทางมาร่วมประชุม จะมีการประชุมย่อยต่าง ๆ ซึ่งไม่อยากให้ผู้ที่เดินทางมาร่วมประชุมพบกับสถานการณ์ในประเทศที่ไม่เรียบร้อย ความขัดแย้งหรือมีเหตุรุนแรงใด ๆ
การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคถือว่าเป็นเรื่องที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ เป็นโอกาสให้ประเทศฟื้นตัว รวมไปถึงให้คนไทยได้สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น ในเวลานี้ต้องเน้นการประชุมเรื่องเอเปคให้ดีที่สุด เพราะสาธารณสุขถือว่ามีความสำคัญ เพราะหากว่ามีระบบสาธารณสุขที่ดีก็จะเป็นผลดีให้เรื่องอื่น ๆ
 
 
 …
Read More

จากกรณีที่มีการโพสต์คลิปใน TikTok ลักษณะคล้ายการถ่ายพรีเวดดิ้ง ในคลิปจะเห็นผู้ชายซึ่งอยู่ในเครื่องแบบตำรวจเต็มยศ ส่วนฝ่ายหญิงอยู่ในชุดแต่งงานสีขาว กำลังเปิดประตูเดินลงจากรถยนต์ที่เปิดสัญญาณไฟวับวาบ ก่อนจะเดินมายังบริเวณด้านหน้ารถยนต์คันดังกล่าว และเดินจูงมือกันไป เจ้าของโพสต์ระบุข้อความว่า “ดูมีสง่า ภาษีมากครับ ชาวบ้านทั่วไปอยากถ่ายพรีเวดดิ้งแบบนี้ต้องทำหนังสือถึง ผบ.ตร. ไหมครับ”
ต่อมาทวิตเตอร์ดังกล่าว ยังได้โพสต์คลิปอีก 1 คลิป คลิปนี้ฝ่ายหญิงเดินคนเดียว จับกระโปรงชุดแต่งงาน และมีภาพด้านหลังเป็นรถยนต์ของตำรวจทางหลวง 5 คัน หน้าสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง จากคลิปดังกล่าวมีชาวโซเชียลจำนวนมากเข้าไปแสดงความคิดเห็นในทำนองที่ตั้งคำถามถึงการนำรถยนต์ของทางราชการไปใช้ในการถ่ายทำงานพรีเวดดิ้งว่าเหมาะสมหรือไม่
ล่าสุดตำรวจทางหลวงออกเอกสารชี้แจงผ่านทางออนไลน์ โดยระบุว่า กองบังคับการตำรวจทางหลวง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้แล้ว จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า คลิปดังกล่าวถ่ายไว้เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้ปรากฏในคลิปเป็นข้าราชการตำรวจทางหลวงจริง และสถานที่ที่ปรากฏ คือ สถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ หากพบว่ามีพฤติกรรมที่เป็นความผิดวินัยจะได้ดำเนินการทางวินัยโดยเคร่งครัดต่อไป
นอกจากนี้ ขออภัยประชาชนและสังคมจากคลิปดังกล่าว และขอขอบคุณในความห่วงใยในความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวงจะได้กำชับและควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปด้วยความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ การใช้ยานพาหนะของทางราชการโดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะเมื่อปีที่แล้วมีกรณีคล้าย ๆ กันเกิดขึ้น เป็นการใช้เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจ ซึ่งท้ายที่สุดนายตำรวจที่เกี่ยวข้องถูกสั่งย้าย และตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย
ย้อนไปกลางเดือน เม.ย.2564 คลิปนี้เป็นที่พูดถึงในวงกว้าง โดยยังมีหญิงสาวคนหนึ่งโพสต์คลิปลงในโซเชียล ถ่ายกับเฮลิคอปเตอร์ มีตราสัญลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งหญิงคนดังกล่าวได้ถ่ายไว้ตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่อง ขณะขึ้นไปนั่งภายในเครื่องจนขึ้นบิน พร้อมยังถ่ายให้เห็นบรรยากาศภายในเฮลิคอปเตอร์ จนถูกสังคมตั้งคำถามว่าหญิงคนนี้เป็นใคร
ท้ายที่สุดทราบว่าเป็นภรรยาของตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งกรณีดังกล่าวทำให้นายตำรวจ สามีหญิงที่ปรากฏในคลิป ถูกสั่งย้ายโดยให้ขาดจากตำแหน่งและสังกัดเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บังคับบัญชาหน่วยที่ไปปฏิบัติราชการมอบหมาย พร้อมมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนและลงโทษทางวินัย…
Read More