Main

กลุ่มปตท.โชว์กำไรปี66กว่า 2.2แสนล. GPSCจ่อลดถือหุ้นAEPLที่อินเดีย นำเงินขยายพลังงานทดแทน

ในปี2567 เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวแต่ยังเปราะบางอยู่ แม้ว่าจะมีแรงหนุนภาคการท่องเที่ยว การกลับมาขยายตัวของภาคการส่งออกตามภาวะเศรษฐกิจในเอเชียที่ฟื้นดีขึ้น แต่ภาคการผลิตยังหดตัว เนื่องจากสินค้าไทยหลายรายการเริ่มไม่เป็นที่ต้องการของตลาดโลก ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีผลต่อราคาพลังงาน การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้า กดดันให้ธุรกิจไทยต้องเร่งปรับตัว เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันควบคู่กับการดำเนินธุรกิจแบบESGเพื่อสร้างเติบโตอย่างยั่งยืน ขณะที่ประเทศไทยเจอความท้าทายที่หลากหลายในปีที่ผ่านมาทั้งเศรษฐกิจโลกผันผวน-เปลี่ยนผ่านรัฐบาลช้ากระทบงบประเทศ วิกฤตหนี้ครัวเรือนและดอกเบี้ยสูง ทำให้ GDP เติบโตได้ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้โตพียง 1.9% ต่ำกว่าศักยภาพและต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน แต่ผลประกอบการงวดปี2566ของปตท.และบริษัทย่อยในตลาดหุ้นทั้ง 6 บริษัท พบว่ามีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 223,960 ล้านบาท ยกเว้นบมจ. ไออาร์พีซี (IRPC)ที่ยังคงขาดทุนสุทธิ 2,923ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่าปี 2565ที่กลุ่มปตท.มีกำไรสุทธิ 206,005 ล้านบาท เนื่องจาก บมจ. พีทีที โกลบอลเคมิคอล (PTTGC) และIRPC มีผลขาดทุนสุทธิรวมกัน 13,116ล้านบาท ในปี2566 บมจ. ปตท.(PTT) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 112,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี2565ราว 22.9% บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) มีกำไรสุทธิ 76,706 ล้านบาท
Read More