dzvin.news casino

อีวี มี พลัส เปิดตัว ‘AION ES’ (ไอออน อีเอส) ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ เจาะกลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ บุคคลทั่วไป และ แท็กซี่ EV
The post อีวี มี พลัส เปิดตัว AION ES รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับ แท็กซี่ EV ราคา 929,900 บาท appeared first on ล้ำหน้าโชว์…
Read More

วันนี้ (10 ธ.ค.2566) เวลา 07.00 น. ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ภาพรวมปริมาณฝุ่น PM2.5 ในประเทศ พบเกินค่ามาตรฐานในปทุมธานี กรุงเทพฯ นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ สุโขทัย พิษณุโลก อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สระบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี สมุทรสงคราม ฉะเชิงเทรา ระยอง หนองคาย นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ยโสธร อุบลราชธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 3 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 9.7 – 51.5 มคก./ลบ.ม…
Read More

ความคืบหน้ากรณีนายธนภัทร หรือต่อ อายุ 37 ปี ผู้ต้องขังคดีลักทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันเหลือโทษจำคุก 1 ปี 10 เดือน ได้ใช้คีมตัดเหล็กตัดโซ่ตรวน หนีออกจากโรงพยาบาลบางละมุง เมื่อช่วงเวลา 02.00 น. วานนี้ (9 ธ.ค.2566) หลังเข้ารับการผ่าตัดเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยแพทย์ให้นอนพักฟื้นที่ห้องคนไข้ แผนกศัลยกรรมชั้น 7 ก่อนหลบหนีไปนั้น
วันนี้ (10 ธ.ค.2566) เวลา 07.00 น. เจ้าที่กรมราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษพัทยา ได้ปรับแผนปูพรมค้นหาบริเวณภายในอาคารของโรงพยาบาลบางละมุง เพราะเชื่อว่านายธนภัทร ยังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในโรงพยาบาล โดยสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.บางละมุง กระทั่งควบคุมตัวผู้ต้องขังชายคนดังกล่าว ได้บริเวณอาคารดาดฟ้าชั้น 2 ห้องคลอด

พบผู้ต้องขังคนดังกล่าวอยู่ในสภาพอิดโรย โดยยังใส่เสื้อคนไข้สีเขียว แต่เปลี่ยนจากผ้าถุงสีขาว เป็นกางเกงขาสั้นสีเทา ที่ข้อเท้าทั้ง 2 ข้าง ยังมีหวงเหล็กโซ่ตรวน
ขณะที่แพทย์ได้ตรวจสอบร่างกายของผู้ต้องขังก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.บางละมุง เพื่อส่งฟ้องศาลพัทยาให้แล้วเสร็จในวันนี้ จากนั้นจะส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำมั่นคงสูง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง จนท.เร่งค้นหา นช.ตัดโซ่ตรวนหนีออกจาก รพ.ใน จ.ชลบุรี …
Read More

วันที่ 9 ธ.ค.2566 กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวญาติผู้ต้องขังรายหนึ่งเข้าร้องเรียนว่า พี่สาวซึ่งถูกต้องโทษอยู่ ถูกผู้ต้องขังรายอื่นทำร้ายร่างกาย ขณะถูกคุมขังอยู่ภายในทัณฑสถานหญิงกลาง
กรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากทัณฑสถานหญิงกลาง ว่าผู้ต้องขังที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาททั้ง 2 รายนั้น เกิดขึ้นขณะผู้ต้องขังกำลังเข้าแถวเพื่อรอซื้อสินค้าจากร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังและมีปากเสียงกันรุนแรง เมื่อซื้อสินค้าเรียบร้อยแล้ว ยังไม่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ ยังคงถกเถียงกันจนนำไปสู่การทำร้ายร่างกาย
กรมราชทัณฑ์ ยังชี้แจงเพิ่มเติมประเด็นกล่าวอ้างว่ามีขาใหญ่สร้างอิทธิพลนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากทัณฑสถานฯ ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกรายอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค ไม่มีการเลือกปฏิบัติ หรือให้ผู้ต้องขังมีอิทธิพลโดยเด็ดขาด
ประเด็นการใช้กุญแจมือ และกระจกในการทำร้ายกัน จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดการทะเลาะวิวาทไม่มีการใช้กุญแจมือ และกระจกในการทำร้ายกัน ประกอบกับการตรวจร่างกายไม่ปรากฏบาดแผลที่เกิดจากของมีคม หรือบาดเจ็บรุนแรงแต่อย่างใด มีเพียงรอยฟกช้ำเล็กน้อยเท่านั้น พร้อมยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้เห็นเหตุการณ์เข้าระงับเหตุและแยกผู้ต้องขังออกจากกันทันที
ส่วนประเด็นที่ระบุว่าเป็นความผิดทั้งสองฝ่าย แต่กลับถูกคุมขังเพียงคนเดียวนั้น กรมราชทัณฑ์ระบุว่า ได้มีคำสั่งแยกขังทั้งสองราย โดยเป็นการแยกขังตามเรือนนอน เพื่อความปลอดภัย และป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่าได้ปฏิบัติต่อผู้ต้องทุกคนอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค ตามหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมยึดมั่นในกฎหมายและระเบียบ โดยทัณฑสถานหญิงกลาง ได้ดำเนินตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงต่อไป
 …
Read More

วันนี้ (10 ธ.ค.2566) ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย นำกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง สนธิกำลังกับตำรวจนครบาล 4 และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. บุกเข้าตรวจค้นสถานบันเทิง sonic ย่านรามอินทรา ถนนประดิษฐ์มนูธรรม กรุงเทพฯ หลังได้รับข้อมูลว่า เปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีการใช้ยาเสพติดในสถานบริการ
อนุทิน นำกำลังบุกค้นผับย่านรามอินทรา
ขณะเข้าตรวจค้นภายในร้าน พบนักเที่ยวกำลังกินดื่มอย่างสนุกสนาน บางคนมีอาการมึนเมา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว พร้อมประกาศขอตรวจบัตรประชาชนและตรวจสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งนักเที่ยวบางคนพยายามหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวและปิดล้อมพื้นที่
เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจค้นผับ
จากการตรวจสอบภายในร้าน พบยาเสพติดบรรจุอยู่ในซองพลาสติกถูกทิ้งเกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน และควบคุมตัวนักเที่ยวชายและหญิง จำนวน 214 คน ไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ในจำนวนนี้พบ ปัสสาวะสีม่วง 122 คน
เจ้าหน้าที่ตรวจหาสารเสพติด
นายอนุทิน เปิดเผยว่า สถานประกอบการแห่งนี้ ใบอนุญาตประกอบการหมดอายุตั้งแต่ปี 2563 แต่ยังลักลอบเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดมาจนถึงปัจจุบัน จากการตรวจค้นภายในร้านพบยาเสพติดหลายประเภท เช่น ยาบ้า ยาอี ไอซ์ เคตามีน Happy water อีกทั้งมีการจัดห้องไว้สำหรับเสพยาเสพติดโดยเฉพาะ โดยมีพนักงานของร้านคอยให้บริการ
สำหรับสถานบันเทิงแห่งนี้ เบื้องต้นถูกสั่งปิดให้บริการเป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่งของ คสช.ที่ 22/2558 และตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลไปถึงเจ้าของสถานประกอบการที่แท้จริง

นายอนุทิน ยืนยันว่า การบุกจับกุมในครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนโยบายของรัฐบาลที่อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น…
Read More